ต่อมลูกหมากโต โรคร้ายที่ผู้ชายไม่ควรมองข้าม

ต่อมลูกหมากโต โรคร้ายที่ชายสูงวัยไม่ควรมองข้าม!! จากสถิติพบว่าผู้ชายในช่วงอายุวัย 80 ปี ร้อยละ 80 เป็นโรคต่อมลูกหมากโต โดยทั่วไปแล้ว ต่อมลูกหมากทำหน้าที่ เป็นส่วนสำคัญที่ผลิตสารหล่อลื่นและนำส่งเชื้ออสุจิขณะที่มีการหลั่งอสุจิออกมา

ซึ่งต่อมลูกหมากจะหยุดพัฒนาการเติบโตหลังจากอายุ 20 ปีขึ้นไป จนถึงในช่วงอายุราวๆ 45 ปีขึ้นไป จะมีการพัฒนาขนาดของต่อมลูกหมากโตขึ้นอีกครั้ง และจากร้อยละ 80 ของผู้ที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโต มีการตรวจพบว่าต่อมลูกหมาโตขึ้นจริง แต่มีเพียงร้อยละ 40-50 เท่านั้นที่แสดงอาการของโรค

โรคต่อมลูกหมากโตอาจะไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ หรือปัญหาทางเพศอื่น แต่เนื่องจากอาการของโรคต่อมลูกหมากโตอาจทำให้ท่านรู้สึกเหมือนหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แล้ว….ต่อมลูกหมากโตเกิดจากอะไร ต่อมลูกหมากโตอันตรายไหม รักษาอย่างไรได้บ้าง รวมถึงต่อมลูกหมากโต ห้ามกินอะไร?

• ต่อมลูกหมากโต สาเหตุ
โรคต่อมลูกหมากโต หรือ BPH (Benign Prostate Hyperplasia) ต่อมลูกหมากจะอยู่ด้านในล้อมรอบท่อปัสสาวะ ด้วยสาเหตุนี้เมื่อมีอาการต่อมลูกหมากโตขึ้น ก็จะทำให้ไปบีบส่วนของท่อปัสสาวะให้แคบลง ทำให้มีอาการปัสสาวะติดขัด และต่อมลูกหมากโต สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผนังของกระเพาะปัสสาวะหนาตัวขึ้น เนื่องจากเพื่อที่จะต้องบีบตัวแรงขึ้นเพื่อขับน้ำปัสสาวะผ่านท่อแคบๆ บางครั้งกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน หรือมีผลต่อการกักเก็บปริมาณปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น ซึ่งเป็นอาการหนึ่งของโรคต่อมลูกหมากโต และในบางท่านอาจดูคล้ายกับเสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปด้วยเช่นกัน

• ต่อมลูกหมากโตเกิดจากอะไร
จากข้อมูลในปัจจุบัน มีการสันนิษฐานว่า ต่อมลูกหมากโต เกิดจากอะไรได้บ้าง ซึ่งก็มีอยู่หลายปัจจัย มีการสมมติฐานว่าต่อมลูกหมากโตเกิดจากการเสื่อมสภาพของร่างกายตามวัยอายุที่เพิ่มขึ้น และเนื่องจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนภายในร่างกาย นอกจากนี้อาจจะเกิดจากปัญหาทางพันธุกรรมได้ด้วย ส่วนมากผู้ป่วยที่พบว่าเป็นโรคต่อมลูกหมากโต เมื่อซักประวัติพบว่าเคยมีสมาชิกในครอบครัวเคยเป็นโรคนี้มาก่อน จึงมาโอกาสเป็นโรคได้มากขึ้น

โรคต่อมลูกหมากโตเกิดจากอะไร สัญญาณเตือนเหล่านี้บอกได้
1. มักจะลุกขึ้นมาถ่ายปัสสาวะกลางดึกมากกว่า 2 ครั้ง
2. รู้สึกว่าต้องถ่ายปัสสาวะบ่อย ๆ กลั้นไว้ได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง
3. เมื่อเริ่มปวดปัสสาวะแล้วกลั้นไม่ได้ ต้องรีบเข้าห้องน้ำ
4. เมื่อเริ่มจะถ่ายปัสสาวะ ต้องเบ่งหรือรอนานก่อนจะถ่ายปัสสาวะออกมาได้
5. สายปัสสาวะไม่พุ่งไหลช้าเป็นลำเล็ก
6. สายปัสสาวะขาดตอนเป็นช่วง ๆ ไหล ๆ หยุด ๆ
7. รู้สึกเหมือนปัสสาวะไม่สุดดี ปัสสาวะเสร็จแล้วยังอยากไปอีกเรื่อยๆ

• ต่อมลูกหมากโต อันตรายไหม มีแนวทางการรักษาอย่างไรบ้าง
โรคต่อมลูกหมากโต ไม่อันตรายมากหากคุณเริ่มสังเกตอาการตนเอง รู้เร็ว รักษาได้ไว อย่าชะล่าใจไปเลยทีเดียว เพราะปัญหาต่อมลูกหมากโตอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของท่านได้ สำหรับแนวทางการรักษาต่อมลูกหมากโต มีจุดประสงค์หลักเพื่อให้คุณได้ใช้ชีวิตประจำวันอย่างปกติ สบายตัวมากขึ้น ปัสสาวะได้ปกติ

รักษาต่อมลูกหมากโต วิธีแรก: เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
วิธีง่ายๆที่เริ่มต้นรักษาต่อมลูกหมากโต สำหรับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงมาก เริ่มจากให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดการดื่มน้ำลงในช่วงเวลากลางคืน ลดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ชา กาแฟ แต่หากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ได้ผล อาจจะต้องรักษาโดยวิธีการใช้ยา ต่อไป

รักษาต่อมลูกหมากโต วิธีที่สอง: การรักษาโดยใช้ยา
การรักษาต่อมลูกหมากโตด้วยยา แพทย์จะจ่ายยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยที่ไม่มีโรคประจำตัวให้ เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อเรียบในต่อมลูกหมาก ซึ่งจะทำให้ต่อมลูกหมากมีลักษณะอ่อนตัวลง (Alpha-Blockers) และจะช่วยลดขนาดของต่อมลูกหมากให้มีขนาดเล็กลง กรณีผู้ป่วยที่ปัสสาวะยากลำบาก จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แพทย์จะให้การรักษาด้วยยาตามความเหมาะสมแต่ละอาการของแต่ละบุคคล

รักษาต่อมลูกหมากโต วิธีที่สาม: การผ่าตัด
วิธีการักษาด้วยการผ่าตัด ส่องกล้อง เป็นทางเลือกสุดท้ายที่ใช้พิจารณา โดยส่องกล้องเพื่อขูดเอาชิ้นเนื้อส่วนเกินออกมาจากต่อมลูกหมาก (Transurethral Resection of the Prostate-TURP) ผ่าตัดเอาต่อมลูกหมากบางส่วนที่ขวางท่อปัสสาวะออก ด้วยเครื่องมือแบบขดลวดสำหรับตัดและจี้ด้วยไฟฟ้าที่มีความปลอดภัยสูง เพื่อตัดและหยุดเลือดออกไปได้พร้อมกัน

นอกจากนี้ อาจมีภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้นได้เมื่อไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
• ผู้ป่วยอาจจะมีอาการปัสสาวะไม่ออกทันที หรือค่อยเป็นค่อยไป ในบางรายมีอาการปัสสาวะเป็นเลือดเนื่องจากต่อมลูกหมากบวม
• กระเพาะปัสสาวะครากหรือมีนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ไม่สามารถขับปัสสาวะออกได้หมด ส่งผลให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
• การทำงานของไตเสื่อมลง และไตวายได้
• ต่อมลูกหมากโต ห้ามกินอะไร
ว่ากันว่า อาหาร สมุนไพร ถือเป็นยาจากธรรมชาติ รักษาได้หลายโรค ปลอดภัยที่สุด แม้แต่โรคต่อมลูกหมากโตก็เช่นกัน การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมก็ช่วยให้อาการดีขึ้น หรือห่างจากโรคได้ วันนี้เรามาดูกันว่า โรคต่อมลูกหมากโต ห้ามกินอะไร และเป็นต่อมลูกหมากโต กินอะไรดี

ต่อมลูกหมากโต ห้ามกิน อาหารจำพวกดังต่อไปนี้
1. เนื้อแดง เนื่องจากเนื้อแดงมักถูกนำไปปิ้งย่าง แล้วมีสารเฮเทอโรไซคลิค เอมีน (Heterocyclic Amine:HCAs) ซึ่งจะไปเพิ่มโอกาสการเป็นลูกต่อมลูกหมากโตหรืออาจทำให้อาการหนักขึ้นจนกลายเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ ดังนั้นผู้ที่ชอบทานเนื้อปิ้งย่าง มีโอกาสเสี่ยงต่อมลูกหมากโตลุกลามมากกว่าปกติ
2. นม เนื่องจากในนม มีไขมันอิ่มตัวที่อาจเป็นสารก่อมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันแน่ชัดนัก แต่หากคุณมีสักญาณเตือนโรคมะเร็งต่อมลูกหมากโต ก็ควรเลี่ยงการดื่มนมวัว
3. โซเดียม อาจไปทำให้ระบบกรองของเสียในร่างกายทำงานหนัก และระบบทางเดินปัสสาวะเสื่อมไวขึ้น
4. แอลกอฮอล์ มีการทดลองชื่อ Benign Prostate Prevention Trial ได้ข้อสรุปว่า ผู้ชายที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก เฉลี่ย 240 ออนซ์ต่อสัปดาห์มีโอกาสที่จะเกิดโรคต่อมลูกหมากโตและมะเร็งต่อมลูกหมากสูงผู้ที่ดื่มออกอฮอล์ไม่หนักถึง 3 เท่า ทางเลือกสำหรับผู้มีอาการของโรคต่อมลูกหมากโตควรจะเป็นกาแฟ น้ำผลไม้ ม๊อกเทล น้ำอัดลมชนิดไม่มีน้ำตาล จะดีกว่า

ต่อมลูกหมากโต กินอะไรดี ที่ส่งผลดีต่อร่างกาย
1. ถังเช่า เนื่องจากโรคต่อมลูกหมากโต มีข้อสันนิษฐานว่าเกิดจากความสมดุลของฮอร์โมนภายในร่างกาย ถังเช่ามีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนและเพิ่มสมรรถเพศชาย ให้ต่อมลูกหมากชะลอการขยายตัว อาการที่มีก็จะไม่หนักมาก
2. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ ชะลอการเสื่มของอวัยวะในร่างกาย ที่สำคัญยังช่วยลดการอักเสบของอาการต่อมลูกหมากโตได้ด้วย
3. แซลมอน มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเจริญของเนื้องอกต่อมลูกหมาก ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่อมลูกหมากโต
4. ถั่ว อาหารที่อุดมไปด้วยธาตุสังกะสี และซีลีเนียม ซึ่งสำคัญต่อการทำงานของต่อมลูกหมาก และการปรับสมดุลฮอร์โมนในเพศชาย ลดโอกาสเกิดปัญหาต่อมลูกหมากโตในอนาคตได้

อย่างไรก็ตาม แพทย์แนะนำว่าผู้ที่มีสัญญาณเตือนของอาการโรคต่อมลูกหมากโต ควรรีบรักษา หรือผู้ชายที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ หรือคอยสังเกตตัวเอง อย่าละเลยปัญหาสุขภาพ เพื่อการรักษาจะมีประสิทธิภาพสูงสุดและรักษาได้รวดเร็ว ใช้ชีวิตได้ปกติดีเช่นเดิม…